เปิดราคาแบบไหนให้ดูเหมาะสม
เปิดราคาแบบไหนให้ดูเหมาะสม
เรื่องการต่อรองราคาเป็นเรื่องปกติที่นักขายส่วนใหญ่มักจะต้องเจอ
วันนี้เลยอยากอธิบายแนวคิดเรื่องการเปิดราคาให้ลูกค้าในกรณีที่น่าจะต้องมีการต่อรองเกิดขึ้น มาดูกันครับว่าเปิดราคาและเจรจาประมาณไหนถึงจะเหมาะที่สุด
• เกาะกลุ่มบนของราคาตลาด
เช่นถ้าราคาตลาดอยู่ประมาณ 3,000 – 5,000 บาท ราคาเปิดของคุณก็ควรจะอยู่ที่ประมาณ 5,000 บาท (ในกรณีที่สินค้าหรือบริการของคุณมีคุณภาพหรือเงื่อนไขใกล้เคียงกับที่อื่น)
ถ้าคุณเปิดสูงเกินไปเช่น 8,000 บาท
ลูกค้าเห็นแล้วอาจจะเปิดแน่บและไม่ยอมแม้แต่จะลองต่อราคาดู แต่ถ้าคุณเปิดต่ำไปเช่น 2,800 บาท ลูกค้าอาจจะกังวลเรื่องคุณภาพของคุณก็เป็นได้
• อย่าตั้งราคาสูงเว่อร์และลดเยอะๆ
บางคนยึดติดกับหลักการ “ตั้งเผื่อต่อ” โดยตั้งราคาสูงลิบและคิดว่าจะจูงใจลูกค้าโดยให้ discount เยอะๆ
วิธีนี้ไม่ใช่ว่าจะได้ผลเสมอไป จำดราม่าของกระทะยี่ห้อหนึ่งได้หรือไม่ครับ ไม่ได้บอกว่าสินค้าของเค้าไม่ดีนะครับ แต่กลยุทธ์การตั้งราคาสูงๆและลดเหลือต่ำเตี้ยเรี่ยดินในภายหลังทำให้แบรนด์นี้โดนถล่มแทบเอาตัวไม่รอด
• ช่องว่างราคาควรแคบลงเสมอ
เช่นรอบแรกคุณลดให้ 1,000 บาท รอบถัดไปก็ควรจะลดให้ในราคาหลักร้อย ลักษณะนี้เป็นการสื่อสารว่าเราไม่น่าจะลดเพิ่มได้แล้ว หรือถ้าได้ก็ไม่มาก
แต่ถ้ารอบแรกให้ส่วนลด 1,000 บาท แต่รอบถัดไปลดให้ 1,500 บาท ลูกค้าอาจคิดได้ว่าทำไมไม่ให้ตั้งแต่แรก นอกจากนั้นลูกค้าก็จะคอยจ้องต่อราคาคุณอยู่ร่ำไปเพราะไม่เชื่อถือในราคาแรกที่คุณเปิด
ลองประยุกต์ใช้แนวคิดลักษณะนี้ดูในการเปิดราคาและเจรจาต่อรองนะครับ ผมว่าน่าจะช่วยคุณได้ไม่มากก็น้อยแน่นอน
เรื่องการต่อรองราคาเป็นเรื่องปกติที่นักขายส่วนใหญ่มักจะต้องเจอ
วันนี้เลยอยากอธิบายแนวคิดเรื่องการเปิดราคาให้ลูกค้าในกรณีที่น่าจะต้องมีการต่อรองเกิดขึ้น มาดูกันครับว่าเปิดราคาและเจรจาประมาณไหนถึงจะเหมาะที่สุด
• เกาะกลุ่มบนของราคาตลาด
เช่นถ้าราคาตลาดอยู่ประมาณ 3,000 – 5,000 บาท ราคาเปิดของคุณก็ควรจะอยู่ที่ประมาณ 5,000 บาท (ในกรณีที่สินค้าหรือบริการของคุณมีคุณภาพหรือเงื่อนไขใกล้เคียงกับที่อื่น)
ถ้าคุณเปิดสูงเกินไปเช่น 8,000 บาท
ลูกค้าเห็นแล้วอาจจะเปิดแน่บและไม่ยอมแม้แต่จะลองต่อราคาดู แต่ถ้าคุณเปิดต่ำไปเช่น 2,800 บาท ลูกค้าอาจจะกังวลเรื่องคุณภาพของคุณก็เป็นได้
• อย่าตั้งราคาสูงเว่อร์และลดเยอะๆ
บางคนยึดติดกับหลักการ “ตั้งเผื่อต่อ” โดยตั้งราคาสูงลิบและคิดว่าจะจูงใจลูกค้าโดยให้ discount เยอะๆ
วิธีนี้ไม่ใช่ว่าจะได้ผลเสมอไป จำดราม่าของกระทะยี่ห้อหนึ่งได้หรือไม่ครับ ไม่ได้บอกว่าสินค้าของเค้าไม่ดีนะครับ แต่กลยุทธ์การตั้งราคาสูงๆและลดเหลือต่ำเตี้ยเรี่ยดินในภายหลังทำให้แบรนด์นี้โดนถล่มแทบเอาตัวไม่รอด
• ช่องว่างราคาควรแคบลงเสมอ
เช่นรอบแรกคุณลดให้ 1,000 บาท รอบถัดไปก็ควรจะลดให้ในราคาหลักร้อย ลักษณะนี้เป็นการสื่อสารว่าเราไม่น่าจะลดเพิ่มได้แล้ว หรือถ้าได้ก็ไม่มาก
แต่ถ้ารอบแรกให้ส่วนลด 1,000 บาท แต่รอบถัดไปลดให้ 1,500 บาท ลูกค้าอาจคิดได้ว่าทำไมไม่ให้ตั้งแต่แรก นอกจากนั้นลูกค้าก็จะคอยจ้องต่อราคาคุณอยู่ร่ำไปเพราะไม่เชื่อถือในราคาแรกที่คุณเปิด
ลองประยุกต์ใช้แนวคิดลักษณะนี้ดูในการเปิดราคาและเจรจาต่อรองนะครับ ผมว่าน่าจะช่วยคุณได้ไม่มากก็น้อยแน่นอน