ไม่ต้องถามว่าทำไมเป้าสูง
ไม่ต้องถามว่าทำไมเป้าสูง
ท่านนักขายเป็นมั้ยครับ เวลาที่บริษัทประกาศเป้าการขายมาแล้ว สิ่งแรกที่เราทำคือเช็คดูว่าเป้าสูงไปหรือไม่ ของเราสูงกว่าเพื่อนหรือเปล่า คิดเป้ายุติธรรมไหม อะไรประมาณนี้
และถ้าคำตอบคือเราไม่เห็นด้วยก็จะต้องหาทางต่อต้านหรืออย่างน้อยจับกลุ่มเพื่อวิพากษ์วิจารณ์ก่อนจะตัดสินใจว่าเอาไงดีระหว่าง ยอมๆ ไป ประท้วง หรือลาออกย้ายงานดี ^^
ผมเคยผ่านสถานการณ์เหล่านั้นมาหมดแล้ว และสิ่งที่ผมทำมาตลอดคือ “ผมจะไม่เสียเวลามานั่งคิดเลยว่าเป้าสูงไปหรือไม่เมื่อเทียบกับใครก็ตาม”
แต่ผมจะรีบนั่งคิดให้เร็วที่สุดว่า “ต้องทำอย่างไรบ้างถึงจะทำได้ตามเป้าที่รับมา” ซึ่งวิธีการนี้สิ่งที่คุณจะได้รับคือ
1) คุณเลือกโฟกัสถูกจุด
ควรคิดโฟกัสที่หนทางมากกว่าเสียเวลาไปโฟกัสถึงสาเหตุที่จะทำไม่ได้ ดังนั้นแทนที่คุณจะเอาแรงไปคิดว่าชีวิตคุณไม่แฟร์สู้เอาแรงไปลุยให้ถึงเป้าดีกว่า
2) คุณคิดบวก
แค่คุณคิดว่าทำได้คุณก็ชนะไปครึ่งทางแล้วครับ สั้นๆ แค่นี้แหละ
3) ไม่ช้าก็เร็วคุณจะแซงคนอื่นแน่นอน
ดูจากตรรกะง่ายๆ ครับ ในนาทีที่รับเป้ามา เพื่อนคุณอาจโวยวายและอ้างสารพัดว่าทำไมเป้าถึงสูงเกิน
อันนี้ยังไม่นับรวมกับอารมณ์เสียจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานาไปอีกเป็นวัน
แต่คุณเริ่มต้นคิดหาหนทางในวินาทีที่ได้เป้าเลยและลงมือทำอะไรซักอย่างโดยไม่รีรอ คุณว่าใครจะแซงใครในที่สุดครับ
บางคนบอกว่า อย่างนี้บริษัทไม่ยิ่งได้ใจแล้วซี้ซั้วโยนเป้าที่ไม่ยุติธรรมมาให้เราไม่หยุดไม่หย่อนเหรอ
คำตอบของผมคือ “ไม่ต้องสนใจครับ ก้มหน้าก้มตาทำเต็มที่” และถ้าบริษัทหรือหัวหน้าคุณให้เป้าที่ไม่ถูกตามหลักการมาตลอดเวลาแล้วล่ะก็ ถือโอกาสคิดในใจไปเลยว่าวันนึงเราต้องแซงเค้าได้แน่และเราจะไม่ทำพลาดอย่างที่เค้าทำอีก
คุณเลือกได้นะครับว่าจะกลับไปเป็นจอมบ่นเหมือนเดิมหรือลองใช้วิธีของผมดูครับ
----------------------------
ท่านนักขายเป็นมั้ยครับ เวลาที่บริษัทประกาศเป้าการขายมาแล้ว สิ่งแรกที่เราทำคือเช็คดูว่าเป้าสูงไปหรือไม่ ของเราสูงกว่าเพื่อนหรือเปล่า คิดเป้ายุติธรรมไหม อะไรประมาณนี้
และถ้าคำตอบคือเราไม่เห็นด้วยก็จะต้องหาทางต่อต้านหรืออย่างน้อยจับกลุ่มเพื่อวิพากษ์วิจารณ์ก่อนจะตัดสินใจว่าเอาไงดีระหว่าง ยอมๆ ไป ประท้วง หรือลาออกย้ายงานดี ^^
ผมเคยผ่านสถานการณ์เหล่านั้นมาหมดแล้ว และสิ่งที่ผมทำมาตลอดคือ “ผมจะไม่เสียเวลามานั่งคิดเลยว่าเป้าสูงไปหรือไม่เมื่อเทียบกับใครก็ตาม”
แต่ผมจะรีบนั่งคิดให้เร็วที่สุดว่า “ต้องทำอย่างไรบ้างถึงจะทำได้ตามเป้าที่รับมา” ซึ่งวิธีการนี้สิ่งที่คุณจะได้รับคือ
1) คุณเลือกโฟกัสถูกจุด
ควรคิดโฟกัสที่หนทางมากกว่าเสียเวลาไปโฟกัสถึงสาเหตุที่จะทำไม่ได้ ดังนั้นแทนที่คุณจะเอาแรงไปคิดว่าชีวิตคุณไม่แฟร์สู้เอาแรงไปลุยให้ถึงเป้าดีกว่า
2) คุณคิดบวก
แค่คุณคิดว่าทำได้คุณก็ชนะไปครึ่งทางแล้วครับ สั้นๆ แค่นี้แหละ
3) ไม่ช้าก็เร็วคุณจะแซงคนอื่นแน่นอน
ดูจากตรรกะง่ายๆ ครับ ในนาทีที่รับเป้ามา เพื่อนคุณอาจโวยวายและอ้างสารพัดว่าทำไมเป้าถึงสูงเกิน
อันนี้ยังไม่นับรวมกับอารมณ์เสียจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานาไปอีกเป็นวัน
แต่คุณเริ่มต้นคิดหาหนทางในวินาทีที่ได้เป้าเลยและลงมือทำอะไรซักอย่างโดยไม่รีรอ คุณว่าใครจะแซงใครในที่สุดครับ
บางคนบอกว่า อย่างนี้บริษัทไม่ยิ่งได้ใจแล้วซี้ซั้วโยนเป้าที่ไม่ยุติธรรมมาให้เราไม่หยุดไม่หย่อนเหรอ
คำตอบของผมคือ “ไม่ต้องสนใจครับ ก้มหน้าก้มตาทำเต็มที่” และถ้าบริษัทหรือหัวหน้าคุณให้เป้าที่ไม่ถูกตามหลักการมาตลอดเวลาแล้วล่ะก็ ถือโอกาสคิดในใจไปเลยว่าวันนึงเราต้องแซงเค้าได้แน่และเราจะไม่ทำพลาดอย่างที่เค้าทำอีก
คุณเลือกได้นะครับว่าจะกลับไปเป็นจอมบ่นเหมือนเดิมหรือลองใช้วิธีของผมดูครับ
----------------------------