ความเสี่ยงไม่ใช่ผี จะหนีทำไม ?

ความเสี่ยงไม่ใช่ผี จะหนีทำไม ?

"ทำไมเราถูกสอนว่า เราต้องหลีกหนีความเสี่ยง ..อย่าทำอะไรเสี่ยง ..ต้องปลอดภัยไว้ก่อน ...ต้องทำตามแบบคนที่เขาประสบความสำเร็จ ...ต้องเรียนแบบนี้ถึงจะดี ..ทำงานแบบนี้ถึงจะรุ่ง

ในขณะที่ คนที่ประสบความสำเร็จในยุคนี้ เขาทำตรงข้ามทุกข้อ ..แหกกฏทุกแบบ ...ใช้ชีวิตอยู่บนใบมีด !!

ผมถามคนรุ่นใหม่ว่า ทำไมสร้าง Startup กำไรก็ไม่มี ...คนใช้ก็ฟรี ..คิดว่าจะรอดหรือ ? ...เขาตอบว่า ถ้าไม่ทำแบบนี้ ยังไงก็ไม่รอดอยู่แล้ว การทำ Startup ในมุมมองของเขาคือ ทางรอดทางเดียว ที่เขาจะสามารถลืมตาอ้าปาก ในยุคที่โอกาสถูกจำกัด สำหรับคนรวยเท่านั้น (คุณว่า ธุรกิจมันแฟร์เกมหรือ ?)

ก็แค่ทำตรงข้ามกับ ธุรกิจยักษ์ใหญ่ที่เขาทำอยู่
- รายใหญ่ ทำให้ดี ..เราทำให้แปลก
- รายใหญ่ขายของดี ราคาถูก ..เราให้ใช้ฟรี ไปหุ้นส่วนกับนักลงทุน
- รายใหญ่ทำให้ใช้ฟรี ..เราผันตัวไปทำ Niche ..ไปทำแพงเลย เปลี่ยนตลาดไปเลย (อย่าไปสู้ตรงๆ สู้ไปตายเปล่าๆ)
- รายใหญ่เน้นความน่าเชื่อถือ ..เราเน้นความไว ให้ประสบการณ์ที่แตกต่างกัน (ไม่เห็นหรือว่า พอยักษ์ใหญ่ลงมาทำออนไลน์ เขาสู้รายเล็กไม่ได้ เพราะ เขาเต็มไปด้วยข้อจำกัด แต่รายเล็ก เต็มไปด้วยความท้าทาย ความไว และ ความสด)

..แล้วสุดท้ายรายเล็ก ก็กลายเป็นรายใหญ่ หมุนเวียน ท้าทายกันไป

ความเสี่ยง คือ "การทำอะไรเหมือนเดิม ทั้งที่มีความรู้ และ ไม่มีความรู้ เสี่ยงหมดแหละ ..โลกเปลี่ยนแต่ดันทำเหมือนเดิม อันนี้ซวยสุด เจ๊งคนแรก"

ความไม่เสี่ยง คือ "การทำอะไรที่ไม่เหมือนเดิม แม้กระทั่งทำสิ่งที่คนอื่นมองว่าเสี่ยง ...โดยที่เราศึกษาและรู้จักความเสี่ยงนั้นๆ อย่างดีแล้ว"

ดังนั้น "ความเสี่ยง" ในยุคนี้ ไม่ต้องเหมือนเห็นผี วิ่งหนีไม่อยากเจอ แต่กลับกัน เราต้องวิ่งเข้าใส่ความเสี่ยง ศึกษาความเสี่ยง แล้วจัดการความเสี่ยงให้อยู่หมัด

ตัวอย่าง "ออมในหุ้น" ก็เป็น หนึ่งในวิธีการจัดการความเสี่ยงในการเล่นหุ้น ที่ Make Sense ที่สุด วิธีหนึ่งในตลาด

"ไม่หนีความเสี่ยง แต่ฝึกจัดการความเสี่ยง จนเราเชี่ยวชาญ"

#ภาววิทย์กลิ่นประทุม