รู้จักเทคโนโลยีที่เรียกว่า FRAME RELAY
รู้จักเทคโนโลยีที่เรียกว่า FRAME RELAY
1. Point-to-Multipoint: เป็นการเชื่อมโยงสัญญาณจากต้นทางจุดหนึ่งไปยังปลายทางหลายจุด ซึ่งการติดต่อสื่อสารระหว่างสาขาต้องทำการเชื่อมต่อผ่านส่วนกลาง ทำให้ใช้เวลาในการติดต่อระหว่างสาขามากกว่าระบบ MPLS และในกรณีมีการใช้งานพร้อมกันจะมีปริมาณข้อมูลจำนวนมากที่ถูกส่งผ่านมายังส่วนกลาง อาจทำให้เกิดจุดคอขวดได้
2. Privacy and More secure: ข้อมูลของผู้ใช้งานบนโครงข่าย Frame Relay จะเป็น Virtual Private Network คล้ายกับ MPLS แต่ไม่สามารถจัดลำดับความสำคัญ (Quality of Services) ของข้อมูลได้ และการใช้ข้อมูลภาพจะมีปัญหาเรื่องความเสถียร (Stability) ของสัญญาณในการเดินทางบนระบบโครงข่าย
3. Better Performance: ข้อมูลที่ส่งผ่านโครงข่าย Frame Relay มีการระบบการจัดการที่มีประสิทธิภาพ และสามารถสลับข้อมูลสู่เส้นทางสำรองโดยอัตโนมัติ ในกรณีที่
เส้นทางที่ใช้งานอยู่ขัดข้อง
4. Scalability: กรณีต้องการขยายช่องสัญญาณ (Bandwidth) ระบบโครงข่ายสามารถให้บริการได้ตั้งแต่ 64Kbps - 2Mbps ซึ่งรองรับการขยายช่องสัญญาณได้น้อยกว่า MPLS
5. Flexibility: มีความยืดหยุ่นในการใช้งานต่ำ รองรับการใช้งานได้เฉพาะอุปกรณ์ V.35 ดังนั้นในกรณีที่ต้องการใช้งาน Bandwidth สูงๆ จะต้องใช้อุปกรณ์ Port V.35 เป็นจำนวนมาก ต่างจาก MPLS ซึ่งใช้ Ethernet Port เพียง ตัวเดียวก็สามารถรองรับการใช้งาน Bandwidth สูงๆ ได้
6. ต้นทุนค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ไม่ว่าจะเป็นทางด้านอุปกรณ์ซึ่งจะสิ้นเปลืองมากในกรณีที่ใช้ Bandwidth สูงๆ และการจัดการข้อมูลจากต้นทางไปยังปลายทางจะช้ากว่า MPLS
7. ไม่มี Web Report ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบปริมาณการใช้งานในโครงข่ายของผู้ใช้งานได้
8. รับประกันความเร็วช่องสัญญาณตาม CIR (Committed Information Rate) ที่เลือกใช้บริการ
9. อาจเกิดปัญหาในกรณีที่มีการใช้งาน เสียง (Voice) และ ภาพ (VDO) เนื่องจาก Frame Relay ไม่สามารถจัดลำดับความสำคัญของข้อมูลได้ จึงอาจเกิดความไม่เสถียรของสัญญาณที่ถูกส่งออกไปได้
1. Point-to-Multipoint: เป็นการเชื่อมโยงสัญญาณจากต้นทางจุดหนึ่งไปยังปลายทางหลายจุด ซึ่งการติดต่อสื่อสารระหว่างสาขาต้องทำการเชื่อมต่อผ่านส่วนกลาง ทำให้ใช้เวลาในการติดต่อระหว่างสาขามากกว่าระบบ MPLS และในกรณีมีการใช้งานพร้อมกันจะมีปริมาณข้อมูลจำนวนมากที่ถูกส่งผ่านมายังส่วนกลาง อาจทำให้เกิดจุดคอขวดได้
2. Privacy and More secure: ข้อมูลของผู้ใช้งานบนโครงข่าย Frame Relay จะเป็น Virtual Private Network คล้ายกับ MPLS แต่ไม่สามารถจัดลำดับความสำคัญ (Quality of Services) ของข้อมูลได้ และการใช้ข้อมูลภาพจะมีปัญหาเรื่องความเสถียร (Stability) ของสัญญาณในการเดินทางบนระบบโครงข่าย
3. Better Performance: ข้อมูลที่ส่งผ่านโครงข่าย Frame Relay มีการระบบการจัดการที่มีประสิทธิภาพ และสามารถสลับข้อมูลสู่เส้นทางสำรองโดยอัตโนมัติ ในกรณีที่
เส้นทางที่ใช้งานอยู่ขัดข้อง
4. Scalability: กรณีต้องการขยายช่องสัญญาณ (Bandwidth) ระบบโครงข่ายสามารถให้บริการได้ตั้งแต่ 64Kbps - 2Mbps ซึ่งรองรับการขยายช่องสัญญาณได้น้อยกว่า MPLS
5. Flexibility: มีความยืดหยุ่นในการใช้งานต่ำ รองรับการใช้งานได้เฉพาะอุปกรณ์ V.35 ดังนั้นในกรณีที่ต้องการใช้งาน Bandwidth สูงๆ จะต้องใช้อุปกรณ์ Port V.35 เป็นจำนวนมาก ต่างจาก MPLS ซึ่งใช้ Ethernet Port เพียง ตัวเดียวก็สามารถรองรับการใช้งาน Bandwidth สูงๆ ได้
6. ต้นทุนค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ไม่ว่าจะเป็นทางด้านอุปกรณ์ซึ่งจะสิ้นเปลืองมากในกรณีที่ใช้ Bandwidth สูงๆ และการจัดการข้อมูลจากต้นทางไปยังปลายทางจะช้ากว่า MPLS
7. ไม่มี Web Report ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบปริมาณการใช้งานในโครงข่ายของผู้ใช้งานได้
8. รับประกันความเร็วช่องสัญญาณตาม CIR (Committed Information Rate) ที่เลือกใช้บริการ
9. อาจเกิดปัญหาในกรณีที่มีการใช้งาน เสียง (Voice) และ ภาพ (VDO) เนื่องจาก Frame Relay ไม่สามารถจัดลำดับความสำคัญของข้อมูลได้ จึงอาจเกิดความไม่เสถียรของสัญญาณที่ถูกส่งออกไปได้