ไรวินท์ เลขวรนันท์ การวางแผนชัดเจนคือความสำเร็จ

ไรวินท์ เลขวรนันท์ ประธานกรรมการ บริษัท บูรพา เทคนิคอล เอ็นจิเนียริ่ง บริษัทวางระบบสาธารณูปโภคและเอาต์ซอร์ส มีรายได้ปีละ 1,200 ล้านบาท ถือว่าเป็นชายหนุ่มวัย 40 ปี ที่จะจัดว่าเป็นชายหนุ่ม 1,000 ล้านก็ได้ ที่สำคัญเขามีประวัติชีวิตที่น่าสนใจ เป็นหนุ่มน้อยสู้ชีวิต โดยเริ่มธุรกิจมาตั้งแต่อายุ 18 ปี หลังจากที่จบช่างกล เนื่องจากที่บ้านทำร้านเกี่ยวกับเครื่องจักรกล ก็ทำงานเกี่ยวกับพวกระบบไฟฟ้าอยู่ 2-3 ปี จนกระทั่งอายุ 22 ปี ก็เปิดบริษัทรับเหมาระบบสาธารณูปโภคมีงานใหญ่เข้ามาเรื่อยๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน เขาจึงตั้งบริษัทขึ้นมาที่บ้านเกิด จ.สุราษฎร์ธานี
“บ้านจน พ่อแม่มีลูกเยอะ ก็ได้เรียนกันแค่พื้นฐาน พอทำงานก็ยังไม่อยากไปเรียนต่อ ในช่วงนั้นอยากหาเงินช่วยที่บ้านก่อน ซึ่งผมก็อยากเรียนนะ เพราะเรียนดีใช้ได้ แต่ฐานะไม่อำนวย ต้องทำงานไปก่อน” เขาเปิดใจเล่า
จนกระทั่งการงานเริ่มมั่นคงมีบริษัทของตัวเอง รายได้เข้าที่เข้าทาง แบ่งเวลาได้ เขาก็กลับไปเรียนต่อปริญญาตรีทางด้านรัฐศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ภายในเวลา 3 ปี และต่อปริญญาโทด้านบริหารที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ภายในเวลา 2 ปี ขณะนี้กำลังจะเรียนระดับปริญญาเอก เพื่อสานฝันในวัยเด็กที่อยากเรียนสูงๆ
เขาว่าเรื่องการเรียนนั้นสำคัญ เพราะมันช่วยเปิดมุมมองให้กับเขาหลายด้าน “คือมุมมองแบบตอนเรียนจบช่างกลมันก็แบบหนึ่ง ตอนนั้นเราวัยรุ่นก็จะบุกๆ ลุยๆ และการตัดสินใจรวดเร็วก็ทำให้เราพลาดได้ โดยเฉพาะเรื่องการใช้เงินผิดพลาดเกินตัว เมื่อมาทำธุรกิจเราต้องมีสายตาที่ยาวไกล เรามีพนักงานต้องดูแล ผมจึงเลือกเรียนรัฐศาสตร์เพื่อให้รู้เรื่องการปกครอง เรื่องกฎหมาย เรียนบริหารเพื่อให้รู้การเงิน การบริหาร จะกู้ จะลงทุน เรื่องงบบัญชีการเงินต่างๆ ซึ่งก็มีประโยชน์กับงานของเรามาก ทำให้รอบคอบรัดกุมยิ่งขึ้น รู้จักวางแผนการลงทุนและการทำงานอย่างเป็นระบบรัดกุม การจัดการกับความเสี่ยงต่างๆ” เขาเล่าอย่างภูมิใจ
วางแผนดีมีชัยไปกว่าครึ่ง
จนถึงวันนี้เขาทำงานมา 22 ปี ถือว่ามีมุมมองความคิดที่ดีมีรากฐานมั่นคงและมีแผนที่จะนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ภายในปีหน้านี้ จากฐานเดิมของธุรกิจอยู่ที่ จ.สุราษฎร์ธานี เขาก็ย้ายบริษัทมาตั้งที่กรุงเทพฯ เพราะมั่นใจว่าธุรกิจเกี่ยวกับการสื่อสาร สาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานนั้น มีโอกาสโตอยู่เสมอไม่น้อยว่าปีละ 10% แม้ว่าจีดีพีของประเทศจะโตเพียงเล็กน้อยก็ตาม ส่วนสำคัญก็คือมาจากการที่รู้จักวางแผนชีวิตให้ดำเนินไปอย่างมีเป้าหมาย จะได้ไม่พลาดออกนอกลู่นอกทาง
“ส่วนธุรกิจเอาต์ซอร์สการหาพนักงานทุกระดับตั้งแต่แรงงานจนถึงระดับวิศวกรทั่วประเทศที่เขาทำอยู่มีไม่น้อยกว่า 6,000 คน เนื่องจากนโยบายส่วนใหญ่ของบริษัทเอกชนส่วนใหญ่จ้างคนจากข้างนอก เพราะไม่ต้องการแบกภาระเรื่องสวัสดิการต่างๆ หรือการใช้คนระยะสั้น 12 ปี ก็ไม่คุ้มที่จะจ้างพนักงานประจำไว้เอง ดังนั้นส่วนใหญ่จึงใช้บริการจากบริษัทเอาต์ซอร์ส ซึ่งหน่วยงานราชการต่างๆ ก็เริ่มใช้เอาต์ซอร์สมากขึ้น” เขาให้ความเห็น
เขามีการวางแผนงานและแผนชีวิตไว้ทุก 10 ปี ว่าจะเห็นตัวเองเป็นอย่างไร ธุรกิจไปทางไหน มีการจัดการอย่างเป็นขั้นเป็นตอนทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว 
นอกจากนั้น เขายังโชคดีที่ยังมีผู้ใหญ่ที่นับถือคอยให้คำแนะนำสั่งสอนในทางที่ดี
ผู้บริหารที่ดี
ให้ความสำคัญกับทีมเวิร์ก เพราะไม่มีใครจะทำงานประสบความสำเร็จได้ด้วยตัวคนเดียว การมีทีมงานที่ดีจะทำให้งานประสบความสำเร็จได้เร็วขึ้น ดังนั้นต้องเอาใจเขามาใส่ใจเรา มีจรรยาบรรณในการทำงานทั้งต่อเพื่อนร่วมงานและคู่ค้าทางธุรกิจ มีวิชั่นในการบริหารงานที่ดี รอบคอบรัดกุม ไม่ควรจะเสี่ยงมากเกินไป บริหารธุรกิจให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น พูดให้น้อยทำให้เยอะ เรียนรู้อยู่เสมอ อย่าทำตัวฉลาดเพราะถ้าคิดว่าฉลาดแล้วจะพอ จะไม่รับอะไรใหม่ๆ เข้ามา โลกเปลี่ยนไปทุกวัน มีเรื่องใหม่ๆ เกิดขึ้นเสมอ เรียนกันไม่หมดไม่สิ้น ถ้าหยุดเรียนรู้คนอื่นก็แซงหน้าเราไปทันที
“ผมมักจะเลือกอ่านหนังสือประวัติชีวิตคนสำคัญของโลกหรือในวงการธุรกิจ จะเรียนรู้จากประสบการณ์ของเขา โดยเฉพาะเรื่องล้มเหลวผิดพลาดเพื่อเอามาเป็นครูให้เรา เราเรียนรู้จากคนอื่นได้ บางคน 5060 เขาคิดยังไง แก้ไข รับมือในเรื่องนั้นๆ อย่างไร เป็นข้อมูลที่ดีมีประโยชน์ให้เราได้เรียนลัด”
เขาบอกว่า เป็นเรื่องธรรมดาในการทำงาน คนเราจะต้องเจอปัญหาทุกคน เพราะชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ต้องมีผิดพลาดกันอยู่เสมอ ซึ่งแน่นอนว่าต้องจำไว้เป็นบทเรียน ให้ผิดนั้นเป็นครูและจงพยายามอย่าให้ผิดพลาดซ้ำ เมื่อผิดแล้วเริ่มต้นใหม่ จงให้กำลังใจตัวเองอยู่เสมอ ที่สำคัญก็คือจงมองไปข้างหน้าอย่าจมอยู่กับอดีต
เตรียมขยายธุรกิจ
ไรวินท์ เล่าว่า แผนระยะสั้น 12 ปีนี้คือการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้ได้ ส่วนแผนระยะ 34 ปีข้างหน้าก็คือการขยายธุรกิจเพิ่มไปในส่วนของพลังงาน ซึ่งถือว่าเป็นแนวโน้มที่ดีและน่าจับตามอง “อาจจะเป็นเรื่องพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานไฟฟ้า ซึ่งก็ใกล้เคียงกับธุรกิจหลักที่เราทำอยู่แล้วในขณะนี้ ขณะนี้เริ่มศึกษาข้อมูลและความเป็นไปได้อยู่ หากว่าทุกอย่างเป็นไปตามที่คาดไว้ เชื่อว่าจะทำให้ผลประกอบการของบริษัทจะเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท” เขากล่าวอย่างมีความหวัง
บริหารเวลาก็สำคัญ
การทำงานเมื่ออยู่ในเวลางานก็ทุ่มเทให้เต็มกำลังความสามารถ แต่ก็ต้องรักษาสมดุลให้เพียงพอ ทั้งเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว จัดเวลาให้ตัวเองได้ไปออกกำลังกาย เล่นกีฬา เข้าฟิตเนสบ้าง เพราะร่างกายที่แข็งแรง สุขภาพที่ดี ถือเป็นต้นทุนการทำงานที่ดี ทั้งสองส่วนนี้ต้องไปควบคู่กัน ถ้าสุขภาพย่ำแย่ จิตใจเคร่งเครียด จะคิดอ่านอะไรก็ไม่ปลอดโปร่ง
ไรวินท์ เลขวรนันท์ อายุ 42 ปี
ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บูรพา เทคนิคอล เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน)
จบช่างกลไฟฟ้า จากโรงเรียนอาชีวะดอนบอสโก
จบปริญญาตรี จากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
จบปริญญาโท จากคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
กำลังเรียนปริญญาเอกด้านการเงิน
สะสมไวน์และนาฬิกา
งานอดิเรก ออกกำลังกาย ทำอาหาร และท่องเที่ยว