22 ลักษณะนิสัยที่ช่วยทำให้ชีวิตของคุณมีความสุขมากขึ้นในทุกๆวัน

22 ลักษณะนิสัยที่ช่วยทำให้ชีวิตของคุณมีความสุขมากขึ้นในทุกๆวัน


1. ทิ้งหรือบริจาคสิ่งของที่คุณไม่ต้องการ

ตัดสินใจเลือกเก็บเฉพาะสิ่งที่สามารถใช้ประโยชน์หรือมีคุณค่ากับคุณก็พอ


2. จัดระเบียบไม่ว่าจะเป็นงานเอกสารหรือบิลต่างๆ

คุณควรจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยและเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เสื้อผ้าและข้าวของที่จำเป็นก็ควรวางให้เป็นที่เป็นทางเพื่อความสะดวกในการหา


3. อย่าบริโภคสิ่งที่คุณไม่ต้องการ

วิธีนี้ทำใจยากกว่าการทิ้งสิ่งที่ไม่ต้องการซะอีก คุณควรใช้ความระมัดระวังในการเลือกซื้อทั้งเสื้อผ้า อาหารการกิน และผลิตภัณฑ์อื่นๆ คิดให้ดีว่ามันจำเป็นจริงหรือเปล่า? หรือแค่ทำให้คุณรู้สึกดีในขณะนั้นกันแน่?


4. ให้ความสำคัญกับตัวเองมากกว่างาน

ยกเว้นเฉพาะตอนที่คุณต้องมีความรับผิดชอบ ตราบใดที่ไม่ใช่เวลางาน คุณก็มีค่ามากกว่าสิ่งที่คุณทำและสมควรได้รับ


5. ทำในสิ่งที่ทำให้คุณรู้สึกมีสมาธิ

หากการนั่งขัดสมาธิและกำหนดลมหายใจเข้าออกไม่ใช่แนวของคุณ งั้นก็ลองหาวิธีอื่นที่ทำให้คุณรู้สึกสงบและมีสติอยู่กับปัจจุบัน หากการนั่งรถเปิดหน้าต่างและฟังเพลงเสียงดังหรือการเต้นระบำทำให้คุณรู้สึกเช่นนั้นก็จงทำไปเถอะ


6. เปลี่ยนงานบ้านในแต่ละวันให้เป็นการบำบัดรักษาโรค

เช่น การอาบน้ำ คุณสามารถอาบน้ำร้อนเพื่อทำความสะอาดร่างกายและผ่อนคลายความเครียดให้ทุเลาลงได้ ขณะเดียวกันการจุดเทียนและฟังเพลงพร้อมกับใช้เกลือทำความสะอาดร่างกายก็ช่วยได้เช่นเดียวกัน เพียงจดจ่อกับสิ่งที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและชัดเจน


7. เริ่มทำสมุดข้อมูล

รวบรวมทั้งคำพูด แนวคิด และข้อความต่างๆที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับคุณ หรือทำให้คุณรู้จักคิด ทำ และจัดเตรียมทุกอย่างอย่างเป็นระบบเพื่อให้เข้าถึงข้อมูลได้ตามที่ต้องการ


8. ทำรายงาน

คล้ายกับสมุดข้อมูล แค่จดบันทึกแนวคิด และเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน ลองมองย้อนกลับไปและสะท้อนความคิดทุกอย่างที่คุณต้องการเปิดเผยและเปลี่ยนแปลงไม่มากก็น้อยในชีวิตของคุณ


9. จุดเทียนตอนกลางคืน

แสงเทียนจะช่วยสะกดจิตใจทำให้คุณรู้สึกสงบ พร้อมกับสร้างบรรยากาศให้ดียิ่งขึ้น


10. เปลี่ยนจากชาหรือกาแฟเป็นน้ำอุ่นผสมมะนาวกับน้ำผึ้ง

เนื่องจากมันจะช่วยให้ผ่อนคลายและมีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพได้อย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งสบายกระเป๋าและมีความเป็นธรรมชาติมากกว่าลาเต้ของคุณเสียอีก


11. ซื้อของทุกอย่างโดยจ่ายเป็นเงินสดเท่านั้น

เพราะคุณจะได้รู้ว่าตัวเองใช้จ่ายอะไรไปบ้าง


12. ท่องจำคำสวดมนต์

แม้ว่าอาจจะดูแปลกไปหน่อยในตอนแรก แต่บอกเลยว่ามันมีพลังมหาศาลและเมื่อคุณเห็นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากการกระทำนี้ คุณจะเข้าใจและเริ่มพิจารณาทำอย่างต่อเนื่อง


13. เลิกปฏิสัมพันธ์กับบุคคลที่ไม่มีอิทธิพลในด้านบวกกับคุณ และอย่ารู้สึกเสียใจที่ทำเช่นนั้น

หากพวกเขาโวยวายว่าคุณหยาบคายหรือใจร้ายก็ปล่อยพวกเขาไป คุณไม่สามารถบังคับใครให้ยอมรับเหตุผลของตัวคุณเองได้หรอก


14. ทำอาหารมื้อค่ำรับประทานเอง

การผสมวัตถุดิบและปรุงอาหารถือเป็นการฝึกฝนขั้นพื้นฐานในการทำอาหารรับประทานเอง ซึ่งจะทำให้คุณรู้สึกมีพลังและความรับผิดชอบในรูปแบบที่เรียบง่ายที่สุดตามแบบฉบับของมนุษย์


15. สังเกตสิ่งที่คุณเสพอย่างไร้สติ

ไม่ว่าจะเป็นดนตรี อาหาร หนังสือ หรือโทรทัศน์ สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบต่ออารมณ์ของคุณได้ตลอดเวลา อย่าประเมินพลังของพวกมันต่ำเกินไป


16. ถามตัวเองว่าอยากใช้ชีวิตแบบไหนและวางเป้าหมายอื่นไปพร้อมๆกัน

ยกตัวอย่างเช่นถ้าคุณต้องการเริ่มธุรกิจใหม่ลองถามตัวเองว่านี่คืองานที่คุณรักหรือทำเพียงเพราะว่าอยากให้ตัวเองดูประสบความสำเร็จกันแน่? นี่คือวิธีตัดสินใจเลือกเส้นทางที่เหมาะกับคุณ


17. ตั้งเป้าหมายให้สูงกว่าปกติและพยายามทำอย่างดีที่สุด

มันจะช่วยทำให้คุณรู้สึกผิดน้อยลงจากความเชื่อที่ว่าคุณควรพยายามให้มากกว่านี้


18. หาความสุขที่อยู่ท่ามกลางความเรียบง่ายในชีวิตประจำวัน

คุณไม่จำเป็นต้องโอ้อวดประสบการณ์อันน่าเหลือเชื่อ ไม่จำเป็นต้องรับประทานอาหารราคาแพง และไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าสิ่งที่ชีวิตคุณต้องการในปัจจุบัน


19. จงใส่ใจในสิ่งที่คุณกำลังตามหา

เพราะไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในที่สุดคุณจะหามันเจอแน่นอน


20. สร้างหลักปรัชญาประจำตัวและใช้เป็นแสงนำทางในชีวิตรวมถึงการตัดสินใจของคุณด้วย

ถ้าคุณไม่มีความเชื่อส่วนตัว เช่น ทำไมเราต้องอยู่ที่นี่ เรากำลังทำอะไรอยู่ ชีวิตของคุณก็อาจจะยังขาดๆเกินๆ เต็มไปด้วยความกังวลและฟุ้งซ่าน แต่คุณก็ไม่จำเป็นต้องยึดหลักตามศาสนาเพียงแค่รู้ว่าสิ่งใดที่เหมาะกับคุณและให้มุ่งมั่นไปในทางนั้นอย่างจริงจัง


21. เลิกพยายามทำตัวเรียบร้อย

ยิ่งคุณบิดเบือนตัวตนของตัวเองมากเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งสูญเสียพลังงานไปกับการเก็บกลั้นความรู้สึกมากเท่านั้น สักวันหนึ่งอารมณ์ของคุณก็จะพลุ่งพล่านและระเบิดออกมา


22. เลิกเชื่อว่าสิ่งที่คุณรับรู้เป็นอย่างนั้นจริงๆ

อย่าลืมว่าเวลาที่คุณรู้สึกกลัวคุณจะไม่สามารถมองเห็นสิ่งที่อยู่รอบตัวได้อย่างชัดเจน ที่สำคัญคุณไม่อาจคาดเดาได้ว่าอะไรคือสิ่งที่จะทำให้คุณมีความสุข แต่คุณสามารถเลือกที่จะมองหาความสุขและสงบจิตใจในขณะนั้นได้


Blogger : Brianna Wiest