เทคนิคการพัฒนาโมเดลธุรกิจและวิธีปฏิบัติทางธุรกิจ

เทคนิคการพัฒนาโมเดลธุรกิจและวิธีปฏิบัติทางธุรกิจ

Techniques of Developing Business Model and Business Practice
กรอบแนวคิดการพัฒนารูปแบบโมเดลทางธุรกิจและปฏิบัติการทางธุรกิจ 
(Conceptual Framework of Developing Business Model and Business Practice)
Methodology – Framework
                                                 

บทที่ แนวคิดของการพัฒนารูปแบบโมเดลทางธุรกิจ (The Concept of Developing Business Model)
ความหมายของโมเดลุรกิจ (Business Model Definition)
รูปแบบธุรกิจ หรือ โมเดลธุรกิจ คือ การนำเอาแนวคิดใหม่ที่หลากหลายมาพัฒนาและทำให้เกิดความเป็นรูปธรรม จนสามารถดำเนินการให้เกิดผลสำเร็จ แนวคิดพื้นฐานของการสร้างโมเดลทางธุรกิจ คือ การสร้างสินค้าหรือบริการขึ้นมาเพื่อขายให้กับลูกค้าและสร้างผลกำไร สิ่งที่สำคัญ คือ ต้องทราบว่าเราทำธุรกิจอะไร (What is your business?)  เราจะทำธุรกิจของเราได้อย่างไร (How to do the business? ) ลูกค้าของเราคือใคร (Who is your customers? ) และที่สำคัญเป้าหมายของการทำธุรกิจคืออะไร (Goals)
ดังนั้นเมื่อสิ่งเหล่านี้ชัดเจน การกำหนดแนวคิดรูปแบบธุรกิจก็จะชัดเจนและมีเป้าหมายที่เป็นรูปธรรม การดำเนินการตามกลยุทธ์เพื่อบรรลุเป้าหมายจึงจะประสบความสำเร็จ
เทคนิคในการสร้างรูปแบบธุรกิจ (Techniques of Developing Business Model)
  •  ต้องเข้าใจชัดเจนในธุรกิจที่ทำ สินค้าหรือบริการ ลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย เป้าหมายองค์กร ยอดขายปัจจุบัน
  • การออกสินค้าและบริการที่มีความสัมพันธ์กับสังคมเครือข่าย Social Network และไลฟ์สไตล์ของผู้คนในปัจจุบัน จะทำให้โมเดลทางธุรกิจมีความสัมพันธ์กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ลึกซึ่งมากขึ้น สามารถปรับกลยุทธ์ให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
  • ต้องมองตลาดเป้าหมาย คู่แข่ง ทีมงาน ความสามารถในการแข่งขัน สินค้าและบริการที่จะนำเสนอ พฤติกรรมลูกค้า เงินลงทุนและงบประมาณกลยุทธ์การตลาดที่ใช้
  • ที่สำคัญ ทำอย่างไรที่จะทำให้ได้ผลกำไรจาก รูปแบบธุรกิจนั้น ๆ ด้วย
การสร้างรูปแบบธุรกิจจะช่วยให้เห็นถึงภาพรวมของธุรกิจที่ทำ สินค้าและบริการที่จะนำเสนอขายให้ลูกค้า และ วิถีทางในการปฏิบัติเพื่อหารายได้และแสวงกำไรของการทำธุรกิจ ก่อนที่จะมีการจัดทำแผนธุรกิจ ดังนั้น การสร้าง รูปแบบธุรกิจ (Business Model) และการวางแผนธุรกิจ (Business Plan) จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการสร้างรูปแบบธุรกิจให้ยั่งยืน Business Model Generation แต่สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้คือ การสามารถนำไปใช้ปฏิบัติจริงเพื่อให้เกิดผลสำเร็จ (Business Practice)
การสร้างนวัตกรรมทางการจัดการธุรกิจ โดยใช้ประโยชน์ของเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตในปัจจุบันสร้างสังคมเครือข่ายเจาะตลาดเฉพาะทาง เพื่อตอบสนองความต้องการในรูปแบบเฉพาะนั้นสร้างรายได้และผลกำไรอย่างเป็นกอบเป็นกำ โดยสิ่งนี้เกิดจากการสร้างสรรค์แนวคิดใหม่ (Idea generation) และ การระดมสมอง (Brainstorm) กลั่นเอาหลากหลายหลายความคิดให้เป็นความคิดใหญ่ความคิดหนึ่งที่เรียกว่า Big Idea จึงปฏิเสธไม่ได้ว่า การสร้างความคิดใหม่จาก กรอบ แนวคิด (Concept) ให้ออกมาเป็นไอเดียหลัก ( Big Idea) ที่จะสามารถนำมาสร้างรูปแบบธุรกิจ (Business Model) นั้น  ถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
ดังนั้นรูปแบบของแนวความคิดที่มาจากความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) มีก่อกำเนิดมาจากรูปแบบโมเดล กระบวนการระดับจิตซึ่งนำไปสู่การพัฒนาการไปสู่ความคิด ไอเดียที่แปลกใหม่
                                    
                                                      

ขณะที่ความคิดที่แปลกใหม่อาจจะมีรูปแบบที่มาจากการบริหารความคิดสร้างสรรค์ในหลายทางเลือก (Alternative Creativities) ที่มีผลบรรลุไปสู่เป้าหมายเดียวกันทั้งนี้ขึ้นอยู่ความสามารถในการสร้างสรรค์นัวตกรรมทางความคิด (Innovation with Idea Generation)

ความสามารถในการสร้างสรรค์ นวัตกรรม 
 (Creativity ≠ Innovation)
ความคิดสร้างสรรค์นั้นอาจดูคล้ายนวัตกรรม แต่แท้จริงแล้วต่างกัน สิ่งที่แตกต่าง คือ นวัตกรรมนั้นมีมูลค่าทางการตลาด นั่นคือ นอกจากจะมีความคิดสร้างสรรค์แล้ว ต้องสามารถขายได้เพราะเป็นที่ต้องการด้วย ดังรูปแบบ โมเดล 3D Innovative Thinking
จากวิธีปฏิบัติที่ดีทีสุดสู่กระบวนการสร้างสรรค์ 
นวัตกรรมความคิดสร้างสรรค์แบบ มิติ 
From Best Practice to 3D Innovative Thinking 
3D Innovative thinking
  • DEPTH
  • DISTANCE
  • DETERMINATION

ในการบริหารจัดการนวัตกรรมความคิดสร้างสรรค์ โมเดล 3D Innovative thinking วิธีปฏิบัติแบ่งออกเป็นดังนี้
Depth (เชิงลึก) โดยการศึกษาข้อมูลและ แจกแจงปัญหา จำเป็นที่ต้องมีความเข้าใจขั้นต้นของวัตถุประสงค์ (Objectives) ของโมเดลธุรกิจที่จะทำ นั้นคือ ธุรกิจที่ทำคือ อะไร (What Is Your Business) เก็บรวบรวมข้อมูล (Collection) ศึกษาวิจัยทางการตลาด (Market Research) ดังนั้นโมเดล Depth (เชิงลึก) คือ

                                                             

Distance (เชิงกระบวนการ) คือ การสร้างกระบวนการหาคำตอบ ต้องมีความเข้าใจปัจจัยองค์ประกอบที่สำคัญของกระบวนการทางเลือก (Alternative Solution) ที่จะดำเนินการเพื่อกำหนดเป็นกลยุทธ์ (Strategy) และแผนดำเนินการ (Action Plan) ในการพัฒนาทางออกของคำตอบ (Generate Solution) ในเชิงธุรกิจหมายถึงต้องรู้จักลูกค้าคือใคร (Who is your Customer) และ ทางออกของตำตอบคือ อะไร (What is your customer Solution) ดังนั้น โมเดล Distance (เชิงกระบวนการ) คือ

                                                            
     
Determination (เชิงดำเนินการ และตัดสินใจ) คือ การนำแผนปฏิบัติการมาดำเนินการให้เกิดผล (Action Implementation) เพื่อผลในการตัดสินใจ (Decision) ดังนั้นการเรียนรู้วิธีทางแห่งการปฏิบัติเพื่อผลวิเคราะห์และผลลัพธ์จึงจำเป็นต้องรู้ในเชิงธุรกิจว่าจะทำธุรกิจอย่างไร (How to do business) และวิธิทางปฏิบัติการอะไรที่จะทำให้บรรลุเป้าหมาย ดังนั้น โมเดล Determination (ดำเนินการให้เกิดผล) คือ

                                                           

ผลสรุปของการจัดการนวัตกรรมสร้างสรรค์คือการบริหารประดิษฐ์คิดค้น(Invention) นำมาศึกษาข้อมูลแจกแจงปัญหาในเชิงลึกโดยการสร้างกระบวนการหาคำตอบและดำเนินการให้เกิดผลด้วยวิธีคิดแบบ 3 มิติ 3D Innovative Thinking ซึ่งนำมาของผลลัพธ์ในเชิงสร้างสรรค์ (Creative Solution)