มีเงินในกระเป๋า ก็ไม่ได้การันตีความสำเร็จ

'มีเงินในกระเป๋า ก็ไม่ได้การันตีความสำเร็จ' ..แต่ต้อง คิดแบบ Collector จึงจะมีเงินในกระเป๋าแบบยั่งยืน !! (มันต้องคิดแบบ Collector!!) ..ยังไง ?

โลกยุคนี้ยากขึ้น ..หลายคนคิดว่า วันนี้มีเงินในกระเป๋าเราสบายใจแล้ว แต่เอาจริงๆ มันไม่ได้ง่ายแบบนั้น

เราอาจจะเคยถูกสอนว่า 'เก็บเงินยังไงให้รวย' แต่มองไปรอบๆ ตัวทุกวันนี้ซิ มันกลายเป็นเก็บเงินยังไงก็ไม่รวย !! ...เพราะสิ่งที่เราอยากซื้อ อยากได้ มักราคามากกว่าเงินที่เรามีเสมอ เช่น ตอนเป็นนักศึกษาเราแค่อยากมีรถขับ แต่พอเรามีเงินเดือนปั๊บ เราอยากมีรถใหม่ ..พอเรามีรายได้เพิ่ม เราอยากได้รถยุโรป

-- สรุปเป็นสมการโลกยุคใหม่ 'ทุกสิ่งที่เราอยากได้ จะราคาแพงกว่าเงินที่เราหาได้เสมอ!!'

เดี๋ยว!! นี่ไม่ใช่เขียนมาระบาย แต่มันมีทางแก้ ..เราแก้ สมการ ดังนี้ 'คิดแบบ Collector'

1. จะซื้อของอะไร อย่าเพิ่งซื้อ เอาเงินนั้นไปซื้อหุ้น หรือ ตราสารที่มีปันผล ..แล้วค่อยเอาปันผลนั่นแหละมาซื้อของ -- พูดง่ายๆ ใช้ Passive Income ซื้อของ ..อย่าใช้เงินเดือนซื้อของ

2. ซื้อของให้น้อยชิ้น แต่ซื้อชิ้นที่แพงที่สุด ..อันนี้คือ หลักการซื้อของแบบ 'นักสะสม (Collector)' ...นักสะสมไม่ว่าจะเป็น นักสะสม ภาพเขียน นักสะสมนาฬิกา นักสะสมอัญมณี นักสะสมวัตถุโบราณ นักสะสมที่ดิน  ....นักสะสมทุกคน จะเลือกซื้อของที่แพงที่สุด เพราะอันนั้นแหละ ระยะยาวราคาจะขึ้นมากที่สุด

3. ไม่สร้างหนี้ ..นักสะสมจะไม่สร้างหนี้ เขามีชีวิตเพื่อเก็บสะสม Asset ..จะมีกรณีเดียวที่สร้างหนี้ได้คือ หนี้ที่เอา Passive Income มาจ่าย

4. รักสิ่งที่สะสม ..การที่เรารักอะไร เราจะรู้จริงเรื่องนั้น -- นั่นแหละสิ่งที่คุณควรเริ่มสะสม

ใช่ครับ!! นักสะสมส่วนใหญ่ เขากลายเป็นคนรวย เพราะ สิ่งที่เขาสะสมมีราคาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่สิ่งที่มีมูลค่าสูงสุดของนักสะสม ก็คือ 'ความรู้ของเขา' -- เพราะนักสะสมทุกคนคือ ผู้เชี่ยวชาญในสิ่งที่เขาทำ ของจริง !!

ผู้เชี่ยวชาญ คือ ผู้นำในสิ่งที่เขาทำ ...และ ผู้นำสุดท้ายรวยทุกคนครับ !!

ลองเอาวิธีคิด ของนักสะสม มาปรับใช้ซิครับ ผมว่าน่าสนใจดี !!

ถ้ายังไม่รู้สะสมอะไร เริ่มสะสม ความรู้ก่อนเลยครับ ...ผมก็สะสมอยู่สนุกดี !!

#ภาววิทย์กลิ่นประทุม