ตามกลิ่นของเงินไป

'ตามกลิ่นของเงินไป'

ตามไปทำไมถามได้ ...'จะได้รู้ว่า เงินอยู่ที่ไหน จะได้ตามไปหาให้ถูกที่'

ยุคนี้เงินหายากจริงๆครับ ถ้าหาผิดที่ ..แต่ถ้าหาถูกที่มันหาง่ายกว่าเยอะ ..คำถามคือ 'แล้วที่ตรงไหนล่ะที่เงินหาง่าย'

เมื่อกี้ผมเพิ่งกลับจากสนามบิน รู้สึกว่า มันไม่มีที่เดิน ไม่มีที่นั่ง ยังพอมีที่ยืนบ้าง ..อะไรมันเกิดขึ้นที่สนามบิน ..นี่ขนาดดอนเมืองที่เคยปิดร้างมากนาน วันนี้คือโรงงานปลากระป๋องดีๆ นี่เอง

'นี่แหละครับ ผมตามกลิ่นเงินมาถึงสนามบินแล้ว ...มาดูกันเห็นๆ เลยว่า ต่างชาติเขาอยากซื้ออะไรเรา ?'

ข้าว ? ..ยางพารา ? ..อ่ะนะ ขายยากอยู่ ..เอานี่ไปเลย 'การท่องเที่ยว สัมผัสเมืองไทย'

ตรงนี้แหละ Demand เงินมารอแล้ว ...เราติดอันดับประเทศที่นักท่องเที่ยวสูงสุดอันดับต้นๆ ของโลก ปีนึงคนมา 28 ล้านคน ..นี่ขนาดเราทั้งเผา ทั้งจุดระเบิดโชว์ ยังมาเที่ยวขนาดนี้ 'เราต้องมีอะไรดีซิ'

ไม่ต้องคิดเลยว่า ถ้าทำให้ดีจะมากันขนาดไหน ?

ใครคิดทำ Start-Up ไปพ่วงกับการท่องเที่ยวเลย เอาเทคโน ไปผูกกับ การบริการต่างๆ ..ผูกการซื้อสินค้า บริการ ..ขายความสะดวก ..บริการให้ถึงใจ ..ซื้ออะไรตามส่งให้ถึงบ้าน

ยุคนี้คนจ่ายให้ประสบการณ์มากกว่า สิ่งของ

ถ้าเป็นสินค้า ก็ต้องซื้อแล้ว โชว์คนอื่นได้

ถ้าโชว์ไม่ได้ แทบจะไม่มีใครยอมจ่าย

ถ้าจะต่อยอด ก็พัฒนา Brand จับตลาดนักท่องเที่ยว ...อย่าง ตอนนี้เครื่องสำอางค์ , นวด และสาหร่าย เขาจับทางถูก รวยเข้าตลาดหุ้นไปแล้ว ..นักธุรกิจรุ่นใหม่อย่ารอช้า

ใช่!! ...'ถ้าจะทำงานที่เหนื่อยน้อย แล้วได้เงินเยอะ ต้องวิ่งตามกลิ่นเงิน ก็คือ ตาม Demand ..เราต้องรู้ว่าลูกค้าอยากจ่ายอะไร'

การเปลี่ยนแปลงจากสิ่งที่เราถนัดเดิมซึ่งไม่ทำเงิน ไปทำสิ่งใหม่ที่ตลาดต้องการ ต้องอาศัยการเรียนรู้ครั้งใหม่ บวกกับความกล้า

วันนี้ตลาดเปลี่ยน แค่เราตั้งใจคิดดีๆ ว่าคนยุคนี้เขาให้ค่ากับอะไร เราก็จะเห็นโอกาสธุรกิจแล้วครับ

เอาใจช่วย จัดไปครับ

#ภาววิทย์กลิ่นประทุม