พื้นฐานความรู้เรื่องเศรษฐกิจในภาษาชาวบ้าน

พื้นฐานความรู้เรื่องเศรษฐกิจในภาษาชาวบ้าน

ว่าจะเขียนเรื่องนี้นานแล้ว ก็ได้จังหวะ ช่วงนี้เศรษฐกิจโลกผันผวน ...เราจึงควรมีความรู้พื้นฐานในเรื่องเศรษฐกิจจะได้เอาตัวรอดได้ ไม่ถูกหลอก

 ‘ธุรกิจเกิดจากอะไร’ ...หลายคนบอกอยากเป็นนักธุรกิจ ก็พยายามไปเรียนบัญชี เรียนเศรษฐศาสตร์ เรียนสาขาธุรกิจ ..ก็ถือเป็นเรื่องดีนะ มีความรู้พื้นฐาน ...แต่พอเรียนจบเริ่ม งง ว่า แล้วจะเริ่มเป็นนักธุรกิจได้อย่างไร ?

(ผมเอง สมัยจบบริหารธุรกิจ ก็นั่ง เกาหัว 3 รอบ ว่า จะเริ่มธุรกิจอย่างไร ในเมื่อเราไม่ได้ประสบการณ์อะไรเลย ...เงินก็ไม่มี ...ความรู้ก็เอามาจากอาจารย์ ใครๆ ก็รู้ ...ความเชี่ยวชาญสักอย่าง ไม่ต้องพูดถึง ไม่มีครับ ...เพราะ ยุคนี้สอนให้รู้ทุกอย่าง สรุป กรูไม่เก่งอะไรเลย งง ?)

โอเค !! เรามาเริ่มกัน

มาเข้าใจพื้นฐานกันก่อนว่า ‘ธุรกิจ’ ทั้งหมดในโลก เริ่มจากแก่น คือ

1. ธุรกิจที่เกิดมาแก้ปัญหาให้คน

2. ธุรกิจที่เกิดมาสร้างประโยชน์ให้คน

มาขยายความกันว่า

‘แก้ปัญหาอะไร’ ..จริงๆ ปัญหาอะไรก็ได้ ขอให้เป็นปัญหาที่มีคนยอมจ่ายเงินเพื่อแก้ปัญหานั้น

- ‘ปัญหา ในอดีต’ ก็คือ ปัญหาพื้นฐาน ความต้องการปัจจัย 4 ...อาหาร , ยา , เสื้อผ้า , ...ซึ่งปัญหาเหล่านี้ สร้างธุรกิจยักษ์ใหญ่ และ เศรษฐีมากมาย เจ้าของบริษัทเหล่านี้

- ‘ปัญหา ยุคใหม่’ เป็นปัญหา ที่เกี่ยวกับ อารมณ์ ความรู้สึกมากขึ้นเรื่อยๆ ...ความยากของปัญหาก็ซับซ้อนขึ้น

...ยกตัวอย่าง Google เห็นปัญหาว่า คนต้องการค้นหาข้อมูลบน Internet

...หรือ Facebook เห็นปัญหาเรื่อง การติดต่อเชื่อมโยงกัน ก็เกิดเป็น Social Media ที่ท้าทาย สื่อรูปแบบเดิม

กลับมาที่ระดับบุคคล ...ยกตัวอย่าง คนที่เรียนจบ ต้องมาเริ่มที่ตอบคำถามว่า ‘ด้วยความรู้ที่เรียนมา เราสามารถแก้ปัญหาอะไรให้คนอื่นได้บ้าง ?’

คำถามนี้ยากมาก ...แทบจะพูดได้ว่า เด็กจบใหม่ไม่สามารถตอบคำถามนี้ได้ ไม่รู้ว่า สิ่งที่เรียนมาจะไปแก้ปัญหาอะไรให้คนอื่น จนคนยอมจ่ายเงิน

...จริงๆ ถ้าเขาคิดได้ เขาต้องคิดได้ตั้งแต่ก่อนเรียนปริญญาแล้ว จริงไหม ?

...เดี๋ยวนะ !! เรื่องนี้แรง แต่ต้องทำความเข้าใจ คือ ถ้าก่อนเรียนปริญญา เราหาเงินไม่เป็น ก็ไม่ได้หมายความว่า พอจบปริญญาแล้วจะหาเงินเก่ง ...มันไม่เกี่ยวกันเลย

เพราะ การ ‘หาเงิน’ คือ การรู้วิธี ‘แก้ปัญหา’ ให้คนอื่น ...ความรู้ในการเรียนปริญญาที่เพิ่มขึ้น มันช่วยเฉพาะคนที่รู้วิธีหาเงินเป็นแล้วมากกว่า

ดังนั้น วิธีการแก้ปัญหา เบื้องต้นคือ

1. การเป็นลูกจ้าง ...การหางานทำ ...ที่เราได้งาน เพราะ เราเข้าไปทำงานเพื่อแก้ปัญหาบางอย่างให้นายจ้าง

(ที่หลายคนบอกว่า ลูกจ้างไม่รวย ก็มีส่วนถูก ...เพราะ เงินจะมากหรือน้อย มันขึ้นกับขนาดของปัญหาที่เราแก้ ...ลูกจ้าง ส่วนใหญ่แก้ปัญหาเล็กๆ เงินเลยน้อย ...ผู้บริหาร แก้ปัญหาใหญ่กว่าลูกน้อง ก็เลยได้เงินมากขึ้นตามลำดับ)

2. การทำธุรกิจส่วนตัว ...ก็ขึ้นกับขนาดของปัญหา และ คนยอมจ่าย

แต่ธุรกิจ มีความยากกว่าลูกจ้าง ตรงที่

1. ต้องมีทุนเริ่มต้น
2. ต้องมีความเชี่ยวชาญบางอย่าง

ทุนเริ่มต้น คนส่วนใหญ่ไม่มี ...แต่ถ้าทุนเราน้อย ต้องชดเชยด้วยความเชี่ยวชาญ ...พอถามว่า เชี่ยวชาญอะไร ก็บอกยิ่งไม่มีใหญ่ (อ้าว ?)

เราจะเห็น ธุรกิจส่วนใหญ่ ถ้าขาดความเชี่ยวชาญ ก็จะเปิดธุรกิจ Me too คือ เห็นใครทำแล้วดี ก็เปิดบ้าง ..คนทำธุรกิจแบบนี้ มีแต่เจ๊ง !!

ก็ลอง สำรวจตัวเองดูว่า วันนี้ เรามีอะไรบ้างที่จะเริ่มธุรกิจ

- เราเห็นปัญหาอะไรที่คนต้องการให้แก้

- เรามีความเชี่ยวชาญที่จะแก้ปัญหานั้น (ความเชี่ยวชาญ คือ เราทำได้เก่ง ทำได้ดีกว่าคนอื่น)

- เรามีทุนเริ่มต้นหรือไม่ (ทุนไม่มี ต้องมีความรู้ ความเชี่ยวชาญชดเชย ..แล้วไปหาเงิน จากนายทุนแทน)

จะเห็นได้ว่า จริงๆ แล้ว สิ่งที่สำคัญมากในการเริ่มธุรกิจ ก็คือ ความรู้ ....ถ้ามีความรู้ รู้ว่าอะไรคือปัญหา ก็แปลว่า เห็นโอกาส ...พอเห็นโอกาส ก็ต้องเอาความรู้ ความเชี่ยวชาญที่เรามีไปแก้ปัญหานั้น ...เงิน เป็นสิ่งที่ต้องใช้ แต่ถ้าเราเก่งจริง ยุคนี้ หาทุนจากคนอื่น ไม่ใช่เรื่องยาก

นี่คือ ‘วิธีคิดเบื้องต้นของการเริ่มทำธุรกิจ และ หาเงิน’ ...ลองไปปรับใช้ดูครับ

#ภาววิทย์กลิ่นประทุม