สวัสดีครับ ผมชื่อกฤษฎา #ผมเล่าว่า

สวัสดีครับ

ผมทำงานใจตำแหน่งรองประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท วัน-ทู-ออล จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจเกี่ยวกับบริการทางด้านโทรคมนาคมเทคโนโลยี

ก่อนจะมาทำงานกับทางบริษัท วัน-ทู-ออล จำกัด ผมทำงานในตำแหน่ง รองผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน)

ก่อนที่จะมาทำงานกับบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) ผมทำงานในตำแหน่งวิศวกรอาวุโส ของบริษัท ยูไนเต็ด อินฟอร์เมชั่น ไฮเวย์ จำกัด

ก่อนที่จะไปร่วมงานกับบริษัท ยูไนเต็ด อินฟอร์เมชั่น ไฮเวย์ จำกัด ผมทำงานในตำแหน่งนักวิเคราะห์ระบบ บริษัท ทรูมูฟ จำกัด

สิ่งที่ผมได้เล่ามานั้น คือ ประสบการณ์ทางด้านการทำงานที่ได้ทุ่มเทสมอง ความสามารถ ประกอบกับทัศนคติในการทำงานในเชิงบวก ไม่เกี่ยงงาน พร้อมรับการเรียนรู้ได้ตลอดเวลา จะสังเกตว่าผมอายุเพียงแค่ 32 ปี แต่ต้องรับหน้าที่เป็นผู้บริหารในระดับบริษัทที่ผ่านงานของบริษัทมหาชนมาก่อน

จากการตั้งข้อสังเกตส่วนตัว โดยส่วนใหญ่แล้ว คนทำงานที่อายุน้อย และได้เข้าทำงานกับบริษัทขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ รวมถึงเป็นระดับบริหารงาน หากไม่จบนอก ก็ต้องมีฐานะครอบครัวที่ดี มีพ่อแม่เป็นเจ้าของธุรกิจอยู่แล้ว ให้ลูกเข้ามาเป็นผู้บริหาร

แต่สำหรับผมแล้ว คือ เด็กต่างจังหวัด ที่เข้ามาเรียนหนังสือในกรุงเทพฯ ด้วยทุนนักกีฬาที่เรียนฟรีจนจบระดับปริญญาตรี โดยใช้ความสามารถทางด้านกีฬาเป็นการตอบแทนค่าเล่าเรียนให้กับมหาวิทยาลัย

ระหว่างเรียนก็มีทำกิจกรรมร่วมด้วยทั้งทางด้านความเป็นผู้นำของสาขาวิชา ช่วยงานกิจการต่างๆ ของมหาวิทยาลัย เป็นกรรมการของสโมสรนักศึกษา เข้าร่วมกิจกรรมค่ายอาสา หางานเสริมทำระหว่างเรียนหลายๆ อย่าง ซึ่งไม่สะดวกสบายเหมือนกับเพื่อนๆ ทั่วไปที่ทางบ้านส่งเสีย

การเอ็นทรานซ์ในระดับ ม.6 สำหรับผมแล้วเป็นเรื่องสำคัญมาก ผมเลือกที่จะสอบตรงกับมหาวิทยาลัยชื่อดังในภาคใต้ และเป็นเด็กนักกีฬา บ้ากีฬา เล่นแต่กีฬา คนแรกของโรงเรียนที่สอบตรงเข้าคณะวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ได้ แต่เลือกที่จะไม่ไปเรียน ดันเลือกเรียนมหาวิทยาลัยเอกชนในกรุงเทพฯ เพราะเพียงแค่ ได้เรียนฟรี

ระหว่างทำงานหลังจากจบปริญญาตรี ก็ทำงานเก็บเงินสักพักเพื่อส่งเสียตัวเองเรียนในระดับปริญญาโท และได้เริ่มเรียนอย่างหนักเพื่อให้จบภายในระยะของเงินในกระเป๋าที่เก็บเงินเรียน แต่มีหยิบยืมผู้ใหญ่ที่นับถือจ่ายค่าเทอมบ้าง และจบได้ตามกำหนดด้วยเกรดเฉลี่ย 4.00

ระหว่างทำงานไป ก็มีรับเชิญให้ไปเป็นวิทยากรบ้างในหลายๆ ที่ และมีรายได้ส่วนนึง แต่จริงๆ แล้ว อยากเป็นผู้ให้มากที่สุด ให้แนวคิด ให้ข้อคิดดีๆ ให้แรงบันดาลใจ กับน้องๆ เพื่อไม่ให้มีแนวคิดที่ลบ หรือมีแนวคิดที่ผิดพลาด

หลังจากนั้นก็ได้มุ่งมานะทำงานอย่างเต็มที่ให้กับบริษัทเอกชนหลากหลาย ได้รับการทาบทามให้ย้ายงานเพื่อไปเป็นผู้บริหารหลายที่จนประสบความสำเร็จตามฉบับของมนุษย์เงินเดือน และเป็นเด็กต่างจังหวัดที่เข้ากรุงเทพมาเรียนโดยไม่ขอรับการช่วยเหลือจากพ่อแม่ อดมื้อกินมื้อถือเป็นเส้นทางของความอดทน และความสำเร็จ