เคยสงสัยไหมว่า ทำไมมนุษย์เงินเดือนบางคน(อย่างผม) ซื้อหุ้นแล้วถือไม่ขายชั่วชีวิต ..แล้วเขาจะรวยยังไง สงสัยไหม ?'

'เคยสงสัยไหมว่า ทำไมมนุษย์เงินเดือนบางคน(อย่างผม) ซื้อหุ้นแล้วถือไม่ขายชั่วชีวิต ..แล้วเขาจะรวยยังไง สงสัยไหม ?'


ไม่ต้องสงสัยครับ ...หุ้น ถ้าเราไม่ได้ซื้อตามแห่ ซื้อตามเชียร์ เราซื้อโดยมองปันผลเป็นหลัก ..จุดที่ซื้อน่าจะได้ปันผลอย่างน้อย 5% ..จากนั้นก็ถือให้ปันผลมันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จ่ายเราทุกปี ไปเรื่อยๆ ในฐานะเจ้าของหุ้น (เจ้าของกิจการ) - คิดและทำได้แบบนี้ก็รวยแน่นอนซิครับ


ลองคิดเล่นๆ ...คุณว่า : "ลูกจ้าง กับ นายจ้างคุณว่าต่างกันตรงไหน ..ผมว่าต่างกันที่ความกล้า(เสี่ยง) เพราะความฉลาด คนเรามันไม่ได้ฉลาดไปกว่ากันเท่าไหร่หรอก


 ...แต่ที่ต่างกันมากๆ อีกอย่างคือผลลัพธ์ของชีวิต 


-- ลูกจ้างพอเกษียณเขาก็เลิกจ้าง ส่งคุณไปเลี้ยงหลานแม้ว่าคุณจะไม่ได้อยากอยู่บ้านเลี้ยงหลานก็ตาม


 ..แต่นายจ้างหรือเจ้าของ เขาเลือกได้ว่าจะทำงานต่อหรือไม่ก็ได้ ถ้าเลือกไม่ทำก็แค่หยุดรับเงินเดือน หรือ จะตั้งตำแหน่งประธานพิเศษรับเงินเดือนต่อหลังเกษียณก็ทำได้ หรือไม่ก็แค่รับปันผลจากธุรกิจทุกปีไปเรื่อยๆจนตาย 


('นายจ้างทุ่มชีวิตให้ธุรกิจ ธุรกิจก็เลยเลี้ยงเขาไปจนตาย' -- 'ลูกจ้างบางคนก็ทุ่มชีวิตให้ธุรกิจ แต่หลังเกษียณก็ได้เงินก้อนเล็กๆ ก้อนนึงไปทำขวัญ จากนั้นช่างหัวคุณ'


 ..เฮ้ย!! ไม่แฟร์


 ..แฟร์ดิ นายจ้างเขาเสี่ยง แต่ลูกจ้างไม่เสี่ยงไง ..ก้มรับชะตาไป!!) 


-- ดังนั้น ผมอยากจะเตือนลูกจ้างทั้งหลายให้คิดถึงตัวเองบ้าง 


..ถ้าไม่อยากเปิดธุรกิจตัวเอง ก็ต้องเอาเงินเดือนแบ่งไปลงทุนซื้อหุ้นเป็นเจ้าของกิจการที่จะเลี้ยงเราหลังเกษียณ คือ หุ้นที่เราควรลงทุนซื้อถือเป็นเจ้าของคือกิจการที่มั่นคง มีปันผลสม่ำเสมอ และ เราเข้าใจธุรกิจนั้นๆ


 ...ครับ!! โลกทุกวันนี้ ถ้าคุณไม่ดูแลตัวเอง หลังเกษียณก็ไม่มีใครดูแลคุณหรอกครับ


 -- แบ่งเงิน ไปลงทุนยาวๆบ้าง ให้การลงทุนมันดูแลคุณตลอดไป 'ต่อไปถึงยุคที่เราต้อง ออมเงินใน Asset แล้วครับ อย่าประมาท' 


...เราเท่านั้น ที่ต้องดูแลตัวเราเองให้ได้" ..ลูกจ้างดีเด่นกินไม่ได้ครับ แต่นักลงทุนดีเด่น รวยครับ ชิว !!!


 ..ถึงเป็นลูกจ้างก็ต้องฝึกเป็นนักลงทุน 'ออมในหุ้น'


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม