Work Hard VS Work Smart

Work Hard VS Work Smart

ในช่วงหลังมีการถกเถียงมากมายถึงทฤษฎีการทำงานแบบ Work Hard หรือ Work Smart ดีกว่ากัน

แทบจะเอกฉันท์ว่า Work Hard ไม่ใช่เทรนด์อีกต่อไป แต่ Work Smart ต่างหากที่จะทำให้เราได้เนื้องานอย่างแท้จริง

วันนี้มีทั้งข่าวร้ายกับข่าวดีมาแจ้งสำหรับแนวคิดนี้ครับ 

ข่าวดีคือผมเห็นด้วยครับว่า Work Smart ต่างหากที่สำคัญเพราะจะทำให้เราเหนื่อยน้อยแต่ได้ผลงานเยอะ

ข่าวร้ายคือสำหรับวงการขายแล้วถ้าคุณ Work Smart อย่างเดียวแต่ไม่ Work Hard คุณจะสำเร็จแค่ในรูปแบบการเป็น Freelance แต่ไม่เหมาะกับวงการ Corporate Sales ครับ สาเหตุคือ

1) Corporate Sales ส่วนใหญ่มี Sales Cycle คือไม่ใช่ขายแล้วได้ยอดทันที สิ่งที่ทำวันนี้จะส่งผลอีกทีอาจจะเป็น 2-3 เดือนข้างหน้า 

2) ไม่มีความต่อเนื่องถ้าคุณไม่ Work Hard พอ เพราะผลงานอาจขึ้นๆลงๆ คุณต้อง Work Smart + Work Hard “ตลอดเวลา” เพื่อให้ได้มาซึ่งความต่อเนื่องนั้น

3) Corporate Sales ต้องทำนายผลงานในอนาคตจากกิจกรรมที่ทำในวันนี้ได้ ดังนั้นถ้าคุณไม่ Work Hard อย่างต่อเนื่องจะทำให้องค์กรไม่สามารถทำนาย run rate หรือแนวโน้มที่ยอดขายจะวิ่งในแต่ละช่วงได้

ข้อสรุปของผมคือถ้าคุณเป็นนักขายในวงการ Corporate Sales คุณต้อง Work Smart (เชิงคุณภาพ) และ Work Hard ชนิดที่ไม่มีใครมา Outwork ได้ (ทำเกินคุณในเชิงปริมาณ)

และถ้าเพื่อนคุณในวงการ Corporate Sales กำลังเชื่อว่า Work Smart อย่างเดียวน่าจะพอผมขอบอกตรงนี้เลยว่า “คุณกำลังจะตัดคู่แข่งไปได้อีกหนึ่งแล้ว”

ลองแชร์ความคิดเห็นกันได้นะครับผม ถูกผิดอย่างไรผมยินดีรับคำแนะนำครับ